เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ The Tale of the Princess Kaguya (2013) เป็นนิทานโบราณของประเทศญี่ปุ่นที่โด่งดัง แพทย์รู้จักนิทานประเด็นนี้จากการอ่านมังงะและก็มองอะนิเมะ เวอร์ชั่นที่ถูกใจมากมายสุดสร้างโดย Studio Ghibli ปี 2013 เวอร์ชั่นนี้มีการแปลความหมายที่น่าดึงดูด ภาพงาม เพลงประกอบเพราะเหตุว่ามากมาย ระหว่างมองกำเนิดความรู้สึกจุกๆหม่นหมองๆร้องไห้เป็นระยะ ส่วนตอนสุดท้ายเสมือนจะจบแบบสุขสบาย แต่ว่าแปลงเป็นร้องไห้หนักกว่าเดิม
เรื่องย่อ: มีตาคุณยายคู่หนึ่งทำอาชีพตัดไม้ไผ่ วันหนึ่งตาไปตัดต้นไผ่แล้วพบหน่อไผ่เรืองแสงเบาๆผลิออกขึ้นมาจากพื้นดิน เมื่อหน่อไผ่ปริตัวออกมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กอยู่ภายใน ตารีบนำเด็กผู้หญิงกลับมาที่บ้านและก็ตกลงใจกับคุณยายว่าจะเลี้ยงเป็นลูกเพราะเหตุว่ามั่นใจว่าเด็กผู้หญิงเป็นของขวัญที่สรวงสวรรค์ส่งมาให้
เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ The Tale of the Princess Kaguya (2013)
หรือ เจ้าฟ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ นั้นถูกปรับเปลี่ยนมาจากตำนานเก่าที่สุดของญี่ปุ่นอย่างเรื่อง “ตำนานคนตัดไผ่” หรือ “ตำนานเจ้าฟ้าหญิงคางูยะ” ซึ่งความสะดุดตาของแอนิเมชั่นจากค่ายจิบลินั้นได้มีการสร้างภาพวาดลายสีน้ำจากพู่กัน ซึ่งเป็นสไตล์ที่เด่นแล้วก็แปลกใหม่ไม่น้อย
อย่างไรก็ดีเรื่องราวของ เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ The Tale of the Princess Kaguya (2013) เล่าของ ตะเกะโตริ โนะโอะกินะ ชายเฒ่าผู้ดำรงชีวิตด้วยวิธีขายไม่ไผ่ วันหนึ่งเขาได้แลเห็นบ้องไผ่ที่ส่งแสงเรืองรองเข้า รวมทั้งพบว่าด้านในมีทารกสตรีขนาดเท่านิ้วโป้งนอนอยู่ เขาก็เลยนำเด็กแบเบาะกลับไปบ้านไปให้เมียเลี้ยงอย่างลูก แล้วก็ตั้งชื่อให้ว่าคางูยะ-ฮิเมะ หรือเจ้าฟ้าหญิงที่ราตรีกาลอันเรืองรอง วันเวลาผ่านไปเด็กอ่อนน้อยเบาๆเติบโตขึ้นเป็นสาวสวย พร้อมด้วยนำพาความร่ำรวยรุ่งโรจน์มาสู่ชายและก็หญิงสูงวัย แล้วก็เนื่องจากเสียงเล่าลือความสวยสดงดงามของคุณ ก็ทำให้มีบรรดาพระราชโอรสล้นหลามมาขอหมั้นหมายมาก
เจ้าฟ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ เป็นตำนานดั้งเดิมของคนประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าฟ้าหญิงคนนี้เคยเป็นเจ้าฟ้าหญิงบนพระจันทร์มาก่อน แต่ว่าต้องการที่จะมาสัมผัสความรู้สึกแล้วก็การใช้ชีวิตแบบมนุษย์บนโลก เลยถูกส่งมากำเนิดบนโลกในกระบอกไม้ไผ่ พร้อมมีเงินทอง เสื้อผ้างามๆโดยมีคู่ครองแก่ๆคู่หนึ่งมาพบเข้า ก็เลยเก็บไปเลี้ยง เจ้าฟ้าหญิงโตขึ้นในครอบครัวนั้นกระทั่งโต ตอนระหว่างนั้นเจ้าฟ้าหญิงลืมจุดหมายว่าเกิดขึ้นมาบนโลกนี้เพราะเหตุไรและก็ดำเนินชีวิตแบบเสียเปล่า แล้วก็เมื่อวันหนึ่งเจ้าฟ้าหญิงจำต้องถูกส่งตัวกลับพระจันทร์ก็เลยได้พบว่า ตนเองปรารถนาดำเนินชีวิตกับธรรมชาติรวมทั้งต้องการแฮปปี้แบบมนุษย์ ก็เศร้าใจแล้วก็จำเป็นต้องกลับสรวงสวรรค์ไปโดยมิได้ทำในสิ่งที่เราเองปรารถนา
ในความเป็นจริงแล้วความจริงในแอนิเมชั่นประเด็นนี้สะท้อนความเป็นไปของผู้คนได้อย่างถึงแก่น
เมื่อพวกเราจะได้ศึกษาค้นพบว่ายิ่งพวกเราเติบโตมากเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน พวกเรายิ่งจะต้องประจันหน้ากับความไม่สมหวัง เจ็บทั้งกายใจ ความสบายที่พวกเราคร่ำครวญหานั้นชอบอยู่ในตอนวัยเด็กรวมทั้งการได้อยู่กับโลกที่ไม่ต้องมีภาระติดพันนั้นเป็นสิ่งที่พวกเราคิดถึงย์หา รวมทั้งความจริงที่ทารุณไร้มนุษยธรรมแต่ว่าเป็นสิ่งที่ยั่งยืนที่สุดก็คือมนุษย์เราเกิดขึ้นมาเพื่อรู้จักและก็จากลากันในวันหนึ่ง พวกเราเกิดขึ้นมาตัวผู้เดียวและก็จากไปตัวผู้เดียวเช่นเดียวกัน ไม่มีอะไรที่จะเหนี่ยวรั้งข้อเท็จจริงนี้ได้
จุดเริ่มแรกจากความรัก ความปรารถนาดี ที่ไม่ยาสึโกะหยิบยื่นให้เนื่องจากว่าหวังมอบ ‘สิ่งที่เยี่ยมที่สุด’ ให้เจ้าฟ้าหญิงตัวน้อย ได้พาทั้งนักแสดงแล้วก็ผู้ชมทั้งปวงกลับมาตรวจดู แล้วก็ถามว่าโดยความเป็นจริงแล้วความสบายเป็นสิ่งใด และก็เป็นของคนไหนกันแน่
พวกเราไม่บางทีอาจพูดได้ว่าความปรารถนาดีแบบไหนเรียกว่า ‘เหมาะสมที่สุด’ แม้กระนั้นอย่างต่ำขอให้อ้อมแขนในที่สุดระหว่าง ‘บิดามารดาลูก’ แล้วก็คำร้องขอยกโทษที่คางูยะไม่บางทีอาจเป็นความสุขที่ดีของพวกเขาก่อนที่จะคุณจำเป็นต้องกลับไปอยู่บนพระจันทร์
ได้ทำให้ทุกคนกลับมาคุยกันว่าความสุขเป็นอย่างไร อย่ารอคอยให้คนใดกันจะต้องกลับขึ้นไปอยู่บนพระจันทร์ก่อนอีกเลย
เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันของสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ดูแลโดย อิซาโอะ ทากาฮาตะ (Isao Takahata) ซึ่งฉายเมื่อปี 2013 แล้วก็ได้รับการชื่นชมอย่างมากมายในด้านความสวยงามทางภาพแล้วก็เรื่องราวที่ลึกซึ้ง
เรื่องราวย่อ
ภาพยนตร์หัวข้อนี้อิงจากตำนานพื้นเมืองประเทศญี่ปุ่นโบราณเรื่อง เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ The Tale of the Princess Kaguya (2013) เล่าของหญิงสาวลึกลับที่ถูกเจอในกระบอกไม้ไผ่โดยชาวตัดไผ่ผู้อดอยาก เมื่อคุณโตขึ้น คุณเปลี่ยนเป็นหญิงสาวที่สวยจนถึงเป็นที่ถูกตาถูกใจของหนุ่มผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย แต่ว่าคุณเองรู้ดีว่าตัวตนโดยความเป็นจริงของคุณนั้นมาจาก “พระจันทร์” รวมทั้งท้ายที่สุดคุณจะต้องคืนกลับสู่ถิ่นกำเนิดของคุณ hammondsgolf
รีวิว สิ่งที่สะดุดตาที่สุดในรูปภาพยนตร์หัวข้อนี้เป็น ภาพศิลป ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปภาพด้วยมือที่เน้นย้ำการเลือกใช้สีแล้วก็การให้รายละเอียดที่งาม นิดหน่อยของภาพมีลักษณะคล้ายกับภาพวาดด้วยแปรงจีนโบราณ สไตล์นี้ให้ความรู้ความเข้าใจสึกสุภาพและก็คลาสสิก รวมทั้งช่วยเสริมบรรยากาศของเรื่องที่ประสมประสานความสวยแล้วก็ความซึมเศร้าได้อย่างน่าทึ่ง
ในด้านรายละเอียด ภาพยนตร์นี้พรีเซนเทชั่นเรื่องราวที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความฝัน ความสบาย แล้วก็ความเป็นคน ภาพสะท้อนความไม่ถูกกันระหว่างชีวิตที่เรียบง่ายในบ้านนอกและก็แรงกดดันจากสังคมเมือง ภาพยนตร์ยังตรวจสอบหัวข้อของอิสรภาพ การเสาะหาความหมายในชีวิต รวมทั้งการจัดการกับชะตาชีวิตที่ไม่บางทีอาจเปลี่ยนได้ ซึ่งสะท้อนถึงแนวความคิดของวัฒนธรรมประเทศญี่ปุ่นได้อย่างดีเยี่ยม
การเล่าเรื่องของ เจ้าฟ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ เป็นแบบเรียบง่ายแม้กระนั้นทรงอำนาจ ทุกฉากเต็มไปด้วยความรู้สึก อีกทั้งความสำราญ ความซึมเศร้า แล้วก็ความสวยงามด้ามจับจิตใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงกับผู้แสดงอย่างถ่องแท้
จุดเด่น
ศิลป์ที่งดงาม: ภาพวาดด้วยมือที่มีเอกลักษณ์ งดงาม แล้วก็ให้บรรยากาศเสมือนภาพวาดเก่า
ดนตรีประกอบ: ดนตรีที่กวีโดยโจ ฮิซาอิชิ (Joe Hisaishi) เพิ่มความรู้สึกและก็สร้างบรรยากาศที่พอดี
รายละเอียดที่ลึกซึ้ง: การสะท้อนปรัชญาแล้วก็ความรู้สึกของการเจริญเติบโตรวมทั้งการปล่อยวาง
ข้อผิดพลาด
สำหรับบางบุคคล ภาพยนตร์ประเด็นนี้บางทีอาจมองยืดยาวเกินความจำเป็น โดยยิ่งไปกว่านั้นในตอนที่เล่าที่มีการตรวจอารมณ์ที่เข้มข้น ซึ่งอยากได้ความทรหดอดทนสำหรับในการติดตาม
สรุป เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ The Tale of the Princess Kaguya (2013) เป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความสวยอีกทั้งทางด้านภาพรวมทั้งอารมณ์ เหมาะกับคนที่ประทับใจงานศิลปะที่วิจิตรบรรจงและก็การเล่าเรื่องที่เน้นย้ำการสะท้อนปรัชญาในชีวิต ถ้าหากคุณเป็นแฟนของภาพยนตร์จากสตูดิโอจิบลิ ภาพยนตร์หัวข้อนี้นับว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ไม่สมควรพลาด
ประเด็นนี้จบแบบทุกข์ใจๆนะคะ แต่ว่าคนเขียนก็ถูกใจจ้ะ ให้แต้ม 10/10 เลยจ้ะ เนื่องจาก หัวข้อนี้สอนให้ทราบดีว่าพวกเราควรที่จะใช้ชีวิตให้แฮปปี้ในแต่ละวัน เพราะว่าพวกเราไม่เคยทราบว่าวันไหนจะเป็นวันสุดท้ายที่พวกเราได้อยู่บนโลกนี้ ทรัพย์สินบางทีอาจใช้ซื้อข้าวของมีค่าได้มากมาย แต่ว่าบางทีอาจซื้อความสบายให้พวกเรามิได้ ความสบายที่พวกเราปรารถนาบางครั้งอาจจะเป็นเพียงแค่สิ่งเล็กๆที่พวกเราถูกใจ ดังเช่นว่า การอยู่กับธรรมชาติหรือการได้ปฏิบัติงานในสิ่งหวานใจแล้วก็แฮปปี้ เป็นอีกประเด็นที่ทำให้นักเขียนถูกใจรวมทั้งซาบซึ้งใจมากมายๆเลยจ้ะ
การตัดสินใจที่จะมีลูก
ตากับคุณยายเป็นคู่ครองที่ไม่มีลูก ถึงจะเกิดเรื่องในนิทานแต่ว่ามองมีความกลมกลืนกับสภาพสังคมประเทศญี่ปุ่นในขณะนี้ที่กำลังเผชิญภาวการณ์อัตราการเกิดน้อยรวมทั้งมีราษฎรชราเพิ่มมากขึ้น มีการพินิจพิจารณาว่าการที่ชาวญี่ปุ่นมีลูกกันน้อยมีเหตุมาจากต้นเหตุหลายประเภท เป็นต้นว่า มีคนต้องการอยู่แบบไม่มีแฟนเยอะขึ้น, อายุที่สมรสช้าลง นอกนั้นยังมีต้นเหตุด้านการเงิน การมีเวลา ความพร้อมเพรียงสำหรับเพื่อการดูแลเด็ก ที่จำเป็นต้องเอามาประกอบกิจการตกลงใจ เนื่องจากว่าการอุปถัมภ์ค้ำชูเด็กคนหนึ่งให้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพนับว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทุ่มเททรัพยากรมากมายในระดับหนึ่ง
อย่างคู่บ่าวสาวที่สมรสตอนแก่บอกเหตุผลที่ไม่ต้องการที่จะอยากมีลูกว่าเป็นเพราะเหตุว่ากลัวดูแลไม่ไหว กลัวมีช่องว่างของแก่จนกระทั่งไม่รู้เรื่องกัน แต่ว่าตากับคุณยายในนิทานกลับตกลงใจเลือกที่จะเลี้ยงคางุยะ เหตุผลเป็นได้หลายแบบ อาทิเช่น ตายายอยากมีลูกมานานสุดแท้แต่มีมิได้, เห็นใจเด็กที่ปลอดคนดูแล ถ้าหากดูแบบดาร์กเป็นตายายมองว่าคางุยะเป็น “ของขวัญที่สรวงสวรรค์ส่งมาให้” ตามความเลื่อมใสของคนสมัยเก่า ซึ่งสิ่งนี้บางทีอาจนำพาเรื่องดีๆมาให้ในตอนหลัง
ส่วนตัวแล้ว คนเขียนรู้สึกจับใจหัวข้อนี้มากมายๆเลยคะ ทั้งยังอารมณ์ต่างๆที่นักแสดงหลักที่เป็นเจ้าฟ้าหญิงสื่อออกมา มันเป็น ความเป็นคนคนหนึ่งที่ต้องการดำเนินชีวิตเรียบง่ายแล้วก็สุขสบาย ซึ่งคนเขียนมีความรู้สึกว่าหลายท่านก็ต้องการจะมีชีวิตที่เรียบง่ายรวมทั้งสุขสบายเช่นเดียวกัน แต่ว่าข้อเท็จจริงแล้วพวกเราควรจะมีหน้าที่ มีภาระหน้าที่ แล้วก็สิ่งต่างๆที่รอคอยให้พวกเราทำอยู่ ทำให้ปลุกอารมณ์สลดของนักเขียนได้มากเลยจ๊า ทั้งยังโครงเรื่องที่ดำเนินไปแบบง่ายๆไม่สลับซับซ้อน ทำให้คนเขียนรู้เรื่องแล้วก็ดูดซับเรื่องราวได้เร็วแล้วก็เด่นชัด ตรงจุดนี้จัดว่าสามารถเดินเรื่องเจริญเลยคะ แม้กระนั้นถ้าหากคนไหนกันเกลียดชังอนิเมะแนวลายเส้นบางครั้งก็อาจจะรังเกียจประเด็นนี้มากแค่ไหนนะคะ ด้วยเหตุว่าหัวข้อนี้เป็นการวาดการ์ตูนแบบลายเส้นจ้ะ แต่ว่าคนเขียนถูกใจจ้ะ เนื่องจากทำมองกับเค้าเรื่องที่เป็นตำนานดั้งเดิมดี
ย้อนเวลากลับไปสู่สมัยโบราณอันไกลมาก ผ่านภาพยนตร์อนิเมะที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ “เจ้าฟ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่” (The Tale of the Princess Kaguya) ผลงานสุดประณีตบรรจงและละเอียดลออจาก Studio Ghibli ยอดเยี่ยมค่ายอนิเมะระดับนานาชาติ ที่จะพาคุณดำตรงสู่โลกที่นิทานปรัมปราอันน่าคลั่งไคล้ พร้อมมอบประสบการณ์อันแสนอบอุ่นแล้วก็ตรึงใจตรึงตา เสน่ห์แรกที่สะกดสายตาอาจจะหนีไม่พ้นภาพสีน้ำอันสวยสดงดงามเหมือนกับภาพฝัน
ความสามารถของ Isao Takahata ผู้กำกับผู้มากมายประสบการณ์ ภาพเคลื่อนไหวอันงอนงามราวสายลม พลิ้วไหวไปตามจังหวะของเรื่องราว บวกกับสีสันผ่องใสสุภาพ ประสานกับเบื้องหลังอันสวยสดงดงามราวภาพวาด ทำให้บรรยากาศในเรื่องอบอวลไปด้วยความเงียบสงบแล้วก็บรรเทา เสน่ห์อีกข้อที่ไม่สมควรละเลยหมายถึงเพลงประกอบอันเพราะ ประดิษฐ์โดย Joe Hisaishi นักแต่งเพลงมีชื่อขาประจำของ Studio Ghibli เนื้อร้องภาษาประเทศญี่ปุ่นแสนละมุน เพลงที่บรรจงเรียบเรียงละเอียดลออ ใส่ผสานกับอารมณ์ของนักแสดงและก็ฉากต่างๆได้อย่างพอดี เสริมความทรงอำนาจให้กับเรื่องราว ยิ่งซ้ำเติมถึงความพิเศษสุดของ “เจ้าฟ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่”
ความจำนงรวมทั้งอิสระ
เจ้าฟ้าหญิงคางุยะ หากแม้คุณจะถูกเจอโดยครอบครัวชาวตัดไผ่รวมทั้งได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชูด้วยความรักความอบอุ่นจากพ่อและแม่บุญธรรม แม้กระนั้นชีวิตของคุณมิได้เป็นของคุณอย่างแท้จริง ตั้งแต่กำเนิด คุณจะต้องพบเจอกับการคะเนหวังจากคนอื่นๆและก็ถูกจำกัดความอิสระสำหรับในการเลือกดำเนินชีวิต ภาพยนตร์สะท้อนถึงการสืบเสาะหาอิสระของเจ้าฟ้าหญิงคางุยะในโลกที่คุณมิได้เป็นผู้ควบคุม แต่ว่าเมื่อถึงที่สุดแล้ว การกลับไปยังพระจันทร์ก็เหมือนเป็นการกลับสู่อิสระโดยความเป็นจริง แม้ว่าจะจำต้องแลกเปลี่ยนมาด้วยการจากตายรวมทั้งผู้ที่คุณรัก
ความเป็นไม่แน่นอนของชีวิต
เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ The Tale of the Princess Kaguya (2013) ภาพยนตร์สะท้อนแนวความคิดทางศาสนาพุทธเกี่ยวกับความไม่เที่ยงของชีวิต (ไม่แน่นอน) ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างในโลกนี้ล้วนชั่วครั้งคราว ไม่มีสิ่งใดดำรงอยู่ตลอดกาล เหมือนกันกับเจ้าฟ้าหญิงคางุยะที่ถึงแม้คุณจะมีตอนที่เปี่ยมไปด้วยความสบาย ความรัก และก็การมัดพัน แม้กระนั้นท้ายที่สุดแล้ว คุณก็จำต้องจากไป รวมทั้งขณะที่คุณมีในโลกนี้ก็เปรียบเสมือนสายลมที่พัดผ่านเพียงแต่ชั่วขณะเวลาหนึ่ง
การต่อสู้ระหว่างความง่ายๆรวมทั้งความสิ้นเปลือง ชีวิตของเจ้าฟ้าหญิงคางุยะในบ้านนอกเต็มไปด้วยความธรรมดาแล้วก็ความสำราญจากสิ่งเล็กๆแต่ว่าเมื่อบิดามารดาบุญธรรมนำคุณไปสู่สังคมคนชั้นสูงในเมืองเพื่อหวังให้คุณเป็น “เจ้าฟ้าหญิง” อย่างแท้จริง คุณพบว่าความหรูหราเลิศเลอนี้กลับสร้างความทุกข์ใจแล้วก็ทำให้คุณรู้สึกแตกต่างจากตัวตนที่จริงจริง ภาพยนตร์วิจารณ์สังคมที่ยึดติดกับความสิ้นเปลืองและก็บรรทัดฐานด้านสังคมที่กดทับอิสรภาพรวมทั้งความสบายที่จริงจริงของบุคคล
